หงส์เหมือนแพ้ หงส์แดงอาจจะเสียดายไม่น้อยเมื่อพวกเขามีผู้เล่นมากยิ่งกว่าฝั่งเชลซี ถึง 45 นาทีแม้กระนั้นเจาะตาข่ายมิได้ทำให้เพียงแค่แบ่งแต้มกันไป

หงส์เหมือนแพ้ โดยเกมนี้เป็นฝั่ง “สิงห์บลูส์” ที่นำไปก่อนจากการโหม่งของ ไค ฮาแวร์ตซ์​ แม้กระนั้น “ลิเวอร์พูล” มาตามตีเสมอในด้านหลังครึ่งแรกจากจุดลูกโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แถมมีดราม่าเมื่อ รีซ เจมส์ โดนใบแดงจากกระบวนการทำแฮนด์บอลด้วย

จะต้องดูเกมรับของผู้ร่วมทีม โธมัส ทูเคิ่ล ที่เกือบจะไม่ให้โอกาสให้ได้ยิงแบบเน้นย้ำ ๆ เลย พวกเรามาพาทุกท่านมาเจาะลึกหัวข้อที่น่าดึงดูดในเกมนี้กัน จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญ ตอนครึ่งแรกเชลซี ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะหาจังหวะของตนพบ

ซึ่งบรรยากาศที่แอนฟิลด์บีบคั้นกลุ่มเยี่ยมได้อย่างดีเยี่ยม แต่ว่าเมื่อ “เดอะ บลูส์” ไปสู่เกมได้ พวกเขาก็สร้างอันตรายให้แนวรับลิเวอร์พูลแบบสม่ำเสมอจนกระทั่งมาได้ประตูขึ้นนำจากการโหม่งสุดงามของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ภายหลังขึ้นนำแล้วผู้ร่วมทีมของ ทูเคิ่ล ยังเดินหน้าบุกรวมทั้งสร้างจังหวะยิงได้เรื่อย ๆ

จวบจนกระทั่งมันมีจุดเปลี่ยนแปลงของเกมเมื่อ รีซ ​เจมส์ ทำแฮนด์บอลในกรอบจุดโทษ โดยช่วงแรกผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลยร์ ยังคลุมเคลือว่าควรจะให้เป็นจุดลูกโทษไหมก็เลยจะต้องเดินไปที่จอมอนิเตอร์ข้างสนามเพื่อมองภาพย้อนไปด้วยตัวเอง คนจำนวนไม่น้อย

เขาใช้เวลาไม่นานก็กลับมาให้จุดลูกโทษพร้อมแจกใบแดงแก่เจมส์ แน่ ๆ ว่าฝั่งเชลซี อาจไม่ชอบใจกับการวินิจฉัย เมื่อมองจากภาพช้าจะมีความเห็นว่าบอลโดนที่ขาก่อนและก็กระดอนมาโดนแขนซึ่งธรรมดาตามกฎแล้วจะไม่ถือว่าเป็นแฮนด์บอล

แม้กระนั้นจังหวะนี้ เจมส์ อยู่บนเส้นประตูรวมทั้งบอลที่กระดอนจากขากำลังจะปลิ้นเข้าประตูตามใจเขาอุตสาหะใช้แขนดันบอลออกมา นี่ก็เลยเป็นเหตุผลให้ เจมส์ โดนใบแดง

หงส์เหมือนแพ้

หงส์เหมือนแพ้ ตบมือให้เกมรับเชลซี

หงส์เหมือนแพ้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยบอกว่า “เกมรุกที่ดีจะก่อให้คุณชนะ แม้กระนั้นเกมรับที่ดีจะก่อให้คุณเป็นแชมป์” เมื่อได้มองเห็นแมตช์ที่แอนฟิลด์นี้แล้ว จะต้องบอกเลยว่าไม่ทราบสึกเซอร์ไพรส์เลยที่เชลซี คว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาได้เมื่อฤดูที่แล้ว

หงส์เหมือนแพ้ แล้วก็ตอนช่วงหลังของเกมนี้พิสูจน์ให้มีความคิดเห็นว่าพวกเขาแข็งจริง ๆ ภายหลังเหลือ 10 คน ทูเคิ่ล ปรับแท็คติกด้วยการถอด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ รวมทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ ออก พร้อมที่จะจัดส่ง มาเตโอ โควาซิช และก็ ติอาโก้ ซิลวา ลงสู่สนาม (สำหรับ ก็องเต้ นั้นมีกล่าวว่ามีลักษณะเจ็บบางส่วน)

ในแผงกึ่งกลางจำเป็นต้องดู โควาซิช ที่ปฏิบัติภารกิจได้ดีสำหรับการนำบอลออกมาจากเขตอันตรายแล้วก็เอาชีวิตรอดก้าวหน้าเมื่อเจอเพรสซิ่ง ช่วงเวลาที่บรรดาแผงเกมรับสะดุดตาทุกคน ตั้งแต่ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่จัดการบอลสูงถึง 7 ครั้ง,

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ตำแหน่งแท็กเกิ้ลถึง 6 ครั้งรวมทั้งจัดการบอลอีก 9 ครั้ง เวลาที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ก็ต่อกร ซาลาห์ ได้แบบไม่มีกลัว นอกเหนือจากนั้นอีกหนึ่งผู้ที่จำเป็นต้องดูเป็น มาร์กอส อลอนโซ่ ที่นอกเหนือจากการที่จะลงมาช่วยเกมรับแล้ว (ตำแหน่งแท็กเกิ้ล 6 ครั้ง) ยังมีส่วนสำหรับในการช่วยเพิ่มเกมบุกอยู่เสมอ ผลบอลวันนี้

จบท้ายด้วย เอดูอาร์ เมนดี้ ที่โชว์เซฟ 6 ครั้งสมราคาผู้เฝ้าประตูดีเยี่ยมที่สุดของยูฟ่า หนึ่งแต้มจะต้องกล่าวว่าคุ้มค่าสำหรับเชลซีจริง ๆ เอลเลียตต์ทดแทนจังหวะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขยับขึ้นมาเล่นกลุ่มชุดใหญ่อย่างสุดกำลังในช่วงฤดูกาลนี้

รวมทั้งเขาได้ช่องลงเล่นตัวจริงทีแรกในพรีเมียร์ลีกในเกมกับ เบิร์นลี่ย์ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เมื่อเขามีชื่อลงเล่น 11 ตัวจริงในบิ๊กแมตช์กับเชลซี มั่นใจว่าแฟนหงส์คงจะอดห่วงมิได้ว่า กองกลางวัย 18 ปีจะรับแรงกดดันในเกมใหญ่อย่างนี้ไหวหรือเปล่า

แม้กระนั้นเมื่อดูผลงานของเขาแล้วคงจะจะต้องกล่าวว่า…หมดห่วง เด็กวัยหนุ่มคนนี้มีความเชื่อมั่นและมั่นใจมากมายเมื่อได้เป็นเจ้าของบอล เขามีหน้าที่มากมายสำหรับในการเชื่อมเกมรุกทางฝั่งขวา เอลเลียตต์ เกือบจะทำคะแนนตั้งแต่ 4 นาทีแรกจากการยิงไกลระยะ 25 หลาหลุดเสาออกไปน้อยมาก

แล้วก็ก่อนหมดครึ่งแรกเขาก็ได้โอกาสยิงด้วยเท้าขวาที่ไม่ถนัดผ่านคานไป แต่ว่าโดยรวมเจ้าหนู เอลเลียตต์ ปฏิบัติภารกิจในเกมรุกได้ดีราวเล่นกลุ่มชุดใหญ่มานาน การสู้กับกองกลางประสบการณ์สุดยอดทั้งยัง ก็องเต้ และก็ จอร์จินโญ่ ไม่ใช่ง่าย

แต่ว่า เอลเลียตต์ ทำเป็นเกินความคาดหวังมากมายและก็หลาย ๆ คนก็คิดว่าเขาเป็นมิดฟิลด์ลิเวอร์พูลที่ผลงานเหมาะสมที่สุดในเกมนี้ หงส์แดง เสียหายกับการขาดหายไปของ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม แม้กระนั้น เอลเลียตต์ บางทีอาจเป็นคนเติมเต็มช่องว่างนี้

หงส์เหมือนแพ้

สามตัวรุกยากจะหยุด-ไคโชว์เยี่ยม

หงส์เหมือนแพ้ ก่อนเกมนี้คนไม่ใช่น้อยคงจะจ้องไปที่การเผชิญหน้ากันของ โรเมลู ลูกากู หนึ่งในแนวรุกฟอร์มฮอตที่สุดรวมทั้งกองหลังตัวกลาง สุดแกร่งอย่าง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แต่ทว่า พบร์เก้น คล็อปป์ บอกไว้ภายในการแพร่ข่าวว่าเชลซี มิได้มีดีเพียงแค่ลูกากู ผู้เดียวแค่นั้นแม้กระนั้นยังมีตัวอันตรายอีกเยอะ

หงส์เหมือนแพ้ ซึ่งมันก็เป็นราวกับที่ คล็อปป์ บอกก่อนเกมจริง ๆ ลูกากูเปลี่ยนเป็นตัวล่อที่ดีสำหรับการดึง ฟาน ไดค์ ให้ตามตามติด เขาบางครั้งอาจจะมิได้ชนะกองหลังตัวกลาง หงส์ก็จริงแต่ว่ามันเปิดช่องให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ รวมทั้ง เมสัน เมาน์ท มีอิสระสำหรับการจู่โจมมากขึ้นเรื่อย ๆ

ตอนหลังจากที่เชลซี ขึ้นนำแล้วเห็นได้ชัดช่องทางยิงของกลุ่มเยี่ยมมาแบบสม่ำเสมอจากทั้งคู่คนนี้ แน่ ๆ ว่าคุณจะต้องจับตาลูกากู เป็นพิเศษแม้กระนั้นคุณก็ต้องห้ามเผลอให้กับ เมาน์ท และก็ ฮาแวร์ทซ์ ด้วย มิเช่นนั้นจะโดนลงทัณฑ์ ช่วงเวลาเดียวกันจำเป็นต้องดูการจบสกอร์ของ ฮาแวร์ทซ์ ด้วย

ลูกโหม่งห้อยเข้าเสาสองนั้นมากกว่าคำว่า “เพอร์เฟค” โชคร้ายที่เชลซี จะต้องเหลือผู้เล่น 10 คนไม่เช่นนั้นพวกเราคงจะได้มองเห็นเกมรุกจากกองทัพสิงห์บลูส์มากยิ่งกว่านี้ แม้กระนั้นเพียงแค่ตอนครึ่งแรกพวกเขาก็โชว์ให้มองเห็นแล้วว่า 3 ผสานดินแดนหน้าพร้อมสร้างอันตรายให้กับทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ผลบอลเมื่อคืน

หงส์มองเห็นปัญหา การเสมอคราวนี้ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับแพ้สำหรับ “ลิเวอร์พูล” ถ้าว่ามันไม่ใช่วันสิ้นโลกซะหน่อย อย่างต่ำพวกเขาก็ได้มองเห็นปัญหาตั้งแต่ตอนต้นฤดู ยังมีเวลาให้คล็อปป์หาทางปรับแต่งอีกมากมาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาหมดไอเดียสำหรับการเข้าทำเมื่อคู่ปรับตั้งรับลึกซึ่งเป็นภาพที่แฟนหงส์มองเห็นกันบ่อยเมื่อฤดูที่แล้ว

แล้วก็จังหวะส่วนมากก็มาจาการยิงจากแถวสองมากยิ่งกว่าในกรอบจุดโทษ มากมายไปกว่านั้น ผู้เล่นสำรองของ หงส์แดง นอกเหนือจาก ดีโอโก้ โชต้า และจากนั้นก็ยังไม่มีผู้ใดที่มองมีลักษณะท่าทางว่าจะสร้างจุดแปลงได้แบบเฉียบพลัน

แถมพวกเขายังขายตัวรุกอย่าง เซอร์ดาน ซากิรี่ ไปแล้วด้วย ก่อนหมดตลาดนักฟุตบอลสิ้นเดือนนี้ ลิเวอร์พูล บางทีอาจต้องหาตัวรุกเพิ่มเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของขุมกำลัง ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าหรือมิดฟิลด์ตัวรุก แฟนหงส์ก็คงจะแฮปปี้กว่าไม่มีผู้ใดเข้ามาเลย